การเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัดในปัจจุบันถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันตอบโจทย์หลายๆ คนที่ต้องการปรับรูปร่างใบหน้าให้สวยงามและได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดหรือใช้เวลาฟื้นตัวนานเหมือนการผ่าตัด แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจและดูเป็นธรรมชาติ วิธีที่ใช้กันมากที่สุดในตอนนี้คือการใช้ฟิลเลอร์ (Filler) ที่เติมลงไปในคางเพื่อให้คางยาวและเรียวขึ้น การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและแทบจะไม่รู้สึกเจ็บตัวเลย เพราะใช้เข็มเล็กและไม่ต้องทำการผ่าตัดแผลใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากการเสริมคางแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ซิลิโคนหรือการผ่าตัดกระดูก
การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์มักใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที โดยแพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในส่วนที่ต้องการปรับรูปทรงของคาง หลังจากนั้นจะมีการนวดให้ฟิลเลอร์กระจายตัวอย่างดี คางของคุณจะดูเรียวและมีมิติขึ้นทันที โดยไม่ต้องพักฟื้นหรือเจ็บตัวอะไร
หลายคนอาจไม่ทราบว่าการเสริมคางสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดจริง ๆ ซึ่งมีหลายวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวิธีการเสริมคางที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด และทำไมมันถึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในยุคนี้
การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler)
การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) เป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสำหรับคนที่อยากปรับรูปคางให้ดูดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดให้ยุ่งยาก การฉีดฟิลเลอร์คางคือการเติมสารฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณคางเพื่อเพิ่มมิติให้คางดูยาวขึ้นหรือดูชัดเจนขึ้นตามที่ต้องการ วิธีนี้เป็นการเสริมความสวยงามที่ไม่ต้องใช้มีดหมอหรือทำแผลใด ๆ โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือสาร Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นเองในร่างกายมนุษย์ โดยมีคุณสมบัติพิเศษในการเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวหนัง และสามารถยกกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูไม่แข็งหรือไม่แปลกตา เนื่องจากฟิลเลอร์ตัวนี้สามารถปรับรูปทรงได้ง่ายตามลักษณะโครงหน้าแต่ละคน
ข้อดี
- ไม่มีการผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องเปิดแผลหรือใช้เวลาฟื้นตัวนาน
- ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการฉีด
- ความเจ็บปวดต่ำ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นขั้นตอนที่ไม่เจ็บปวดมาก ส่วนใหญ่จะใช้ยาชาก่อนการฉีดเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการไม่รู้สึกเจ็บ
- ไม่มีการพักฟื้น คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการฉีด
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะสลายไปตามธรรมชาติในระยะเวลา 6-12 เดือน ซึ่งอาจต้องทำการฉีดซ้ำ
- ต้องการความชำนาญของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์
เหมาะสำหรับ
คนที่ไม่ต้องการการผ่าตัดและต้องการการเสริมคางที่ไม่ถาวรเพื่อปรับรูปทรงคางในระยะสั้น ๆ
การเสริมคางด้วยไหมยกกระชับ (Thread Lift)
การเสริมคางด้วยไหมยกกระชับ หรือที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันในชื่อว่า “Thread Lift” เป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลังๆ นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยากจะมีคางที่ดูเรียวขึ้น แต่ไม่อยากผ่าตัดหรือเสียเวลาในการฟื้นตัวจากการผ่าตัดเหมือนในวิธีเดิมๆ แบบศัลยกรรมทั่วไป หลักการของการเสริมคางด้วยไหมยกกระชับก็คือ การใช้ไหมพิเศษที่มีคุณสมบัติช่วยดึงกระชับผิวให้ตึงขึ้น โดยการนำไหมที่มีเส้นใยพิเศษมาใส่ในผิวบริเวณคาง ซึ่งไหมเหล่านี้จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิว ทำให้คางดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นให้ผิวบริเวณนั้นสร้างคอลลาเจนออกมาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งคอลลาเจนนี้จะทำให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมาดูตึงกระชับและเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดี
- กระชับและยกคาง ช่วยยกคางให้ดูเรียวและสมดุล
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเปิดหรือการฟื้นตัวที่ยาวนาน
- ผลลัพธ์ที่เห็นได้เร็ว สามารถเห็นผลลัพธ์หลังการทำทันที
- ปลอดภัย เป็นวิธีที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ไหมที่ใช้จะค่อย ๆ หายไปหลังจาก 6-12 เดือน ดังนั้นอาจต้องทำการยกกระชับใหม่
- อาจรู้สึกไม่สบายตัวบ้าง อาจมีความรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยในช่วงแรกหลังทำ
เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการยกคางและเพิ่มมิติให้ใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องการผลลัพธ์ถาวร
การเสริมคางด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (Botox Chin Sculpting)
การเสริมคางด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (Botox Chin Sculpting) เป็นวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งช่วยปรับรูปทรงของคางให้ดูเรียวและสวยขึ้น โดยการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดกรามและทำให้คางดูมีมิติมากขึ้น วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัยกว่าการผ่าตัด เพราะไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน และไม่มีแผลผ่าตัดที่อาจทิ้งรอยไว้บนผิวหน้า โบท็อกซ์ที่ฉีดไปจะทำหน้าที่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณคางและกราม ซึ่งบางคนอาจมีการใช้งานกล้ามเนื้อเหล่านี้มากเกินไปจนทำให้คางหรือกรามดูใหญ่และหนา การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อในจุดนี้ ทำให้คางดูเรียวขึ้นและได้รูปที่สวยงามขึ้นโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดหรือเสี่ยงต่อการทำศัลยกรรมที่ซับซ้อน
ข้อดี
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการเจ็บตัวจากการผ่าตัด
- ผลลัพธ์เร็ว ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อย ๆ เห็นในช่วง 2-3 วันหลังการฉีด
- ราคาไม่สูง การฉีดโบท็อกซ์มักมีราคาที่ไม่สูงเท่ากับการผ่าตัด
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังการฉีด
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นจะต้องทำการฉีดซ้ำ
- ไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณมีปัญหาคางหรือกรามที่แข็งเกินไป อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์หรือไหมยกกระชับ
เหมาะสำหรับ
ผู้ที่ต้องการปรับคางให้ดูเรียวขึ้นและลดกรามโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องการการฟื้นฟู
สรุป
การเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยและไม่เจ็บตัว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการการฟื้นฟูที่ยาวนานหรือไม่อยากเผชิญกับการผ่าตัดที่ซับซ้อน แต่การเลือกวิธีเสริมคางที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ถาวร การฉีดฟิลเลอร์ หรือ โบท็อกซ์ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการการยกกระชับและการปรับรูปคางที่ยาวนานกว่า การใช้ไหมยกกระชับ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน